อยากให้หอบหืดดีขึ้นโดยไม่ต้องพ่นยาตลอดไป แค่ปรับ 4 พฤติกรรมนี้
1.การออกกำลังกาย
เสริมสร้างสมรรถภาพปอดและระบบหัวใจและหลอดเลือด: การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ) จะช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น มีความแข็งแรงและประสิทธิภาพในการแลกเปลี่ยนก๊าซดีขึ้น
ลดการอักเสบ: การออกกำลังกายที่เหมาะสมและสม่ำเสมอช่วยลดการอักเสบในร่างกายโดยรวม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของทั้งภูมิแพ้และหอบหืด
เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยรวม: ทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย ลดโอกาสการติดเชื้อทางเดินหายใจ (เช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้หอบหืดกำเริบได้บ่อย
ควบคุมน้ำหนัก: การออกกำลังกายช่วยควบคุมน้ำหนัก ซึ่งภาวะอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่ทำให้อาการหอบหืดรุนแรงขึ้น
2.การทานอาหารที่มีประโยชน์
ลดการอักเสบ: อาหารที่อุดมไปด้วยผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และไขมันดี (เช่น โอเมก้า-3) มีสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบสูง ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย
เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน: วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารที่ได้รับจากอาหารที่มีประโยชน์ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างสมดุลและมีประสิทธิภาพ
ปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้: อาหารบางชนิด (เช่น อาหารหมักดอง โพรไบโอติกส์) ช่วยส่งเสริมจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ซึ่งมีผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโดยรวม
หลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้/กระตุ้นอาการ: การหลีกเลี่ยงอาหารที่ทราบว่าแพ้หรือไม่ถูกกับร่างกายเป็นสิ่งสำคัญ
3.การพักผ่อนเพียงพอ
ฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกัน: การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูระบบต่างๆ รวมถึงระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลดความเครียด: การนอนหลับไม่เพียงพอเป็นสาเหตุหนึ่งของความเครียด และความเครียดก็ส่งผลเสียต่อภูมิคุ้มกันและอาการหอบหืด
4.การจัดการกับความเครียด
ลดการกระตุ้นอาการ: ความเครียดเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สามารถกระตุ้นให้อาการภูมิแพ้และหอบหืดกำเริบหรือรุนแรงขึ้นได้
ผลต่อฮอร์โมน: เมื่อเราเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนบางชนิดที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและอาจเพิ่มการอักเสบในทางเดินหายใจได้
ปรับสมดุลภูมิคุ้มกัน: การจัดการความเครียดที่ดี เช่น การฝึกสติ โยคะ การทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย จะช่วยปรับสมดุลของระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นได้ดีขึ้น
คำแนะนำเพิ่มเติม
การดูแลตนเองเหล่านี้เป็น ส่วนสำคัญของการจัดการโรคหอบหืด ที่ต้องทำควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น การใช้ยาพ่นหรือยาอื่นๆ ตามที่แพทย์สั่ง และการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่เฉพาะเจาะจง
การมีสุขภาพกายและใจที่ดีเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายสามารถรับมือกับอาการภูมิแพ้และหอบหืดได้ดีขึ้น ลดความถี่และความรุนแรงของอาการกำเริบ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น